สธ.เตือนปชช.เดินลุยน้ำด้วยเท้าเปล่า ระวังโรคไข้ฉี่หนู-โรคเมลิออยด์

สุขภาพ14-9-65

กรมควบคุมโรค แนะสามัญชนในพื้นที่อุทกภัย ไม่เดินลุยน้ำด้วยเท้าเปล่า คุ้มครองป่วยไข้ “โรคไข้ฉี่หนู” และก็ “โรคเมลิออยด์”

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค พูดว่า ในเดี๋ยวนี้มีฝนตกหนัก นำมาซึ่งการทำให้หลายพื้นที่ประสบพบเจอปัญหาน้ำหลาก รวมทั้งโรคสำคัญที่มากับอุทกภัยที่จำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างสม่ำเสมอมี 2 โรค เป็นต้นว่า โรคไข้ฉี่หนู (Leptospirosis) เป็นการติดเชื้อโรคแบคทีเรียประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นได้ อีกทั้งกับคนแล้วก็สัตว์ เชื้อโรคนี้จะเข้าสู่ร่างกายทางรอยแผล ผิวหนังที่นุ่มจากการแช่น้ำนาน หรือการกินอาหารรวมทั้งน้ำที่แปดเปื้อนเชื้อจากฉี่หนูหรือสัตว์อื่นๆที่ติดโรคได้ ลักษณะของโรคไข้ฉี่หนูเป็นเป็นไข้สูง ปวดหัว เมื่อยเรียกตัว จะปวดมากมายที่น่องรวมทั้งต้นขา อาจมีอาการอาเจียน อ้วก ท้องร่วง แล้วก็ตาแดง เหตุการณ์โรคไข้ฉี่หนูเมื่อวันที่ 1 เดือนมกราคม – 5 ก.ย. 2565 เจอคนไข้ 1,410 ราย เสียชีวิต 9 ราย กลุ่มวัยที่พบได้ทั่วไปที่สุด 3 ชั้นเป็นอายุ 45-54 ปี รองลงมาอายุ 35-44 ปี รวมทั้งอายุ 55-64 ปี ส่วนมากเลี้ยงชีพเกษตร

สุขภาพ14-9-65

โรคเมลิออยด์ (Melioidosis หรือโรคไข้ดิน) มีเหตุที่เกิดจากการได้รับเชื้อแบคทีเรีย Burkholderia pseudomallei ที่พบมากในดิน น้ำ เชื้อดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วไปสู่ร่างกายได้ 3 ทางหมายถึง1.การสัมผัสน้ำหรือดินที่มีเชื้อแปดเปื้อน 2.กินน้ำหรือทานอาหารที่แปดเปื้อนเชื้อเข้าไป 3.สูดหายใจเอาฝุ่นละอองจากดินที่มีเชื้อปนอยู่เข้าไป ข้างหลังติดเชื้อโรคโดยประมาณ 1-224 ชั่วโมงจะมีความรู้สึกเจ็บป่วยไข้ แต่ว่าบางรายบางทีอาจนานเป็นปีขึ้นกับจำนวนเชื้อที่ได้รับแล้วก็ภูมิคุ้มกันของแต่ละคน ลักษณะโรคนี้ไม่มีเอกลักษณ์ จะมีความมากมายเหมือนโรคติดเชื้ออื่นๆ หลายโรค ดังเช่น จับไข้สูง มีฝีที่ผิวหนัง เจ็บท้อง ปวดข้อปวดกระดูก มีลักษณะอาการทางระบบฟุตบาทหายใจ บางรายเจออาการทางระบบประสาทร่วมด้วย โดยมากชอบเริ่มจากลักษณะของการมีไข้เป็นหลัก ก็เลยทำให้วินิจฉัยโรคได้ยาก จะต้องอาศัยการตรวจเพาะเชื้อทางห้องทดลองเป็นหลัก เพื่อใช้ประกอบกิจการตรวจวิเคราะห์แล้วก็รักษา
เหตุการณ์โรคเมลิออยด์เมื่อวันที่ 1 ม.ค. – 3 เดือนกันยายน 2565 เจอผู้เจ็บป่วยโรคเมลิออยด์ ปริมาณ 1,908 ราย เสียชีวิต 24 ราย กลุ่มวัยที่พบได้ทั่วไปที่สุด 3 ชั้นหมายถึงอายุ 55-64 ปี รองลงมาแก่กว่า 65 ปี รวมทั้งอายุ 45-54 ปี ส่วนมากดำรงชีพเกษตรกร แพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับในการคุ้มครองป้องกันทั้งยัง 2 โรค จะใช้แนวทางใกล้เคียงกัน

ดังนี้ควรจะเลี่ยงการเดินย่ำน้ำแล้วก็โคลนด้วยเท้าเปล่า ถ้าต้องเดินลุยน้ำ ควรจะใส่รองเท้าบูทหรือถุงก๊อบแก๊บห่อหุ้มรองเท้า เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำโดยตรง กรณีมีรอยแผลควรจะปิดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ หมั่นล้างมือ ล้างเท้าด้วยน้ำสบู่เป็นประจำรวมทั้งอาบน้ำชำระล้างร่างกายโดยทันทีภายหลังจากเสร็จจากการทำงานหรือลุยน้ำ รวมทั้งกินน้ำสะอาดหรือน้ำสุกสุกทุกคราว ถ้ามีลักษณะอาการไข้สูงกระทันหัน ปวดหัว เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเรียกตัว ให้รีบไปพบหมอในทันที แล้วก็แจ้งเรื่องราวเดินลุยน้ำให้หมอรู้ด้วย เพื่อที่หมอจะได้ตรวจวิเคราะห์แล้วก็กระทำการรักษาในทันที ตามอาการแล้วก็ความร้ายแรงของโรค ไต่ถามข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้เหมาะสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422