การเล่น “เกมจูบ” เป็นจารีตการสมรสแบบเริ่มแรกของจีนที่มีมาแต่ว่าโบราณ

แม้กระนั้นในช่วงเดี๋ยวนี้การเล่นกลุ่มนี้เริ่มหายไปๆมาๆกแล้ว ทันโลกข่าวต่างประเทศ เพราะว่านอกเหนือจากจะมองไม่สุภาพแล้ว ยังสื่อความหมายที่ไม่ดีในบางประเด็น อย่างไรก็แล้วแต่ ปัจจุบันได้กำเนิดดราม่าจากเกมดังที่กล่าวมาข้างต้นขึ้นอีกรอบ เพราะเหตุว่าภาพลักษณ์ที่ผิดศีลธรรมของเจ้าสาวและก็บิดาผัว

ตามรายงานพบว่า งานมงคลสมรสที่กำลังเป็นข้อความสำคัญอยู่นั้นจัดขึ้นที่ในบริเวณหูเป่ย เมืองจีน ภายหลังเสร็จสมบูรณ์พิธีสมรสผู้คนก็เริ่มการละเล่นตามจารีตประเพณี แรกเริ่มจะมีการจัดเกมเล็กๆขึ้นเพื่อท้าเจ้าสาวรวมทั้งเจ้าบ่าว โดยมีเป้าประสงค์เพื่อสร้างบรรยากาศที่เบิกบานในสมรส อย่างไรก็แล้วแต่ ในงานสมรสคราวนี้เกมจูบในต้นแบบ “เกมกัดส้ม” นั้นผิดแผกออกไป เพราะว่าผู้เข้าเล่นไม่ใช่คู่เจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้กระนั้นเป็นเจ้าสาวรวมทั้งบิดาของเจ้าบ่าว

โดยกรรมวิธีการเล่นเกมกัดส้มในคราวนี้เป็น จะมีคนถือเชือกสีแดงผูกผลส้มเอาไว้ ให้เจ้าสาวรวมทั้งพ่อตายืนเจอหน้ากันและก็กัดส้มร่วมกัน โดยกล่าวถึงว่าความท้านี้ซึ่งก็คือความกลมเกลียวรวมทั้งความสัมพันธ์
ระหว่างคนสมัยก่อนและก็คนสมัยใหม่ในครอบครัว อย่างไรก็แล้วแต่ เนื่องจากว่าส้มลูกไม่ใหญ่ มีความหมายว่าถ้าเกิดคน 2 คนกัดส้มร่วมกัน ช่องทางที่ริมฝีปากจะสัมผัสกันมีสูงมากมาย

ในตอนแรกเจ้าสาวมีลักษณะอาการขวยเขินบางส่วน คุณไม่กล้าเป็นข้างเริ่มก่อน เมื่อมองเห็นแบบนี้บิดาผัวก็เลยเริ่มที่จะกัดส้ม แล้วดันเข้าไปใกล้ลูกสะใภ้เพื่อคุณกัดส้มร่วมกัน เมื่อคนภายในงานมองเห็นเจ้าสาวแล้วก็พ่อตามีความเชื่อมโยงสนิทสนม ก็พากันตบมือรวมทั้งโห่ร้องสรรเสริญเสียงดัง

ดังนี้ ยังกำกวมว่าเจ้าบ่าวแล้วก็แม่ของเขาอยู่ที่แห่งไหนในระหว่างนั้น แม้กระนั้น เมื่อคลิปการเล่นเกมกัดส้มถูกเผยแพร่บนโซเชียลน็ตเว็ร์ก ก็เปลี่ยนเป็นกระแสดราม่าท่ามกลางคอมเมนต์ติชมจำนวนหลายชิ้น

“คนหนึ่งเป็นพ่อตา คนหนึ่งเป็นลูกสะใภ้ รวมทั้งอยู่กึ่งกลางงานมงคลสมรสเฉพาะหน้าผู้คนมากมายก่ายกอง ความประพฤติปฏิบัติ
แบบนี้สมควรหรือเปล่า?”

“ฉันไม่รู้เรื่องจริงๆว่าพวกเขาเหล่านั้นคิดเช่นไร พวกเขากำลังเปลี่ยนแปลงจารีตที่ดีให้เปลี่ยนเป็นเรื่อง
เฮฮาที่ไม่มีประโยชน์รวมทั้งสะอิดสะเอียน”

“เกมนี้คงจะดีถ้าเกิดผู้เล่นเป็นเจ้าสาวรวมทั้งเจ้าบ่าว แต่ว่าเพราะเหตุไรจะต้องเป็นเจ้าสาวรวมทั้งบิดาเจ้าบ่าว บางเวลาเจ้าสาวบางครั้งอาจจะปราศจากความสุขเช่นเดียวกัน แต่ว่าก็ทำอะไรมิได้ในเมื่อทุกคนบีบคั้นแบบงั้น“